วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

understanding benz





ความคิดสร้างสรรค์กับความคิดไม่สร้างสรรค์
   ความคิดต้องเริ่มจากการที่มนุษย์เราตั้งคำถามขึ้นมาว่า “ทำไม อย่างไร ที่ไหน เมื่อไหร่” จึงจะเกิดกระบวนการคิดขึ้น   
ความคิดสร้างสรรค์ คือ การที่ได้เริ่มคิด ศึกษาหาข้อมูล เริ่มทดลอง มีการจดบันทึกเพื่อค้นหาคำตอบที่เราได้ตั้งคำถามไว้ หากเราไม่มีการตั้งคำถาม หรือมีข้อสงสัย ก็จะไม่เกิดกระบวนการคิดสร้างสรรค์ขึ้น ดังนั้น ความคิดสร้างสรรค์ก็คือ การที่เราได้เริ่มคิดนั่นเอง ส่วนความคิดไม่สร้างสรรค์ก็คือ การที่มีความคิดยึดติดอยู่กับสิ่งเดิมๆ สิ่งที่เป็นที่มีอยู่ คิดว่าสิ่งนั้นๆ
มันดีอยู่เเล้ว ถูกต้องเเล้ว หรือมีความคิดที่ว่า เราไม่มีทางที่จะคิดได้เเน่นอน ไม่มีทางเป็นไปได้ เเต่ที่เลวร้ายที่สุดยิ่งกว่าคิดไม่ได้ หรือคิดไม่ออกก็คือ การที่คิดเเล้วไม่ทำ



บริบท
บริบท คือ องค์ประกอบรอบๆ ของสิ่งที่เรากำลังพูดถึงอยู่ บางครั้งเวลาพูดถึงคำบางคำสั้นๆ อาจทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ผู้ฟังอาจขอให้ผู้พูดอธิบาย "บริบท" หรือสิ่งแวดล้อมคำๆ นั้นประกอบความเข้าใจ เช่นพูดถึงวันคริสมาส บริบทของวันคริสมาส
คือ ลุงซานตาครอส กวางเลนเดีย ของขวัญ ต้นคริสต์มาส เป็นต้น


บริบท
บริบท คือ องค์ประกอบรอบๆ ของสิ่งที่เรากำลังพูดถึงอยู่ บางครั้งเวลาพูดถึงคำบางคำสั้นๆ อาจทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ผู้ฟังอาจขอให้ผู้พูดอธิบาย "บริบท" หรือสิ่งแวดล้อมคำๆ นั้นประกอบความเข้าใจ เช่นพูดถึงวันคริสมาส บริบทของวันคริสมาส
คือ ลุงซานตาครอส กวางเลนเดีย ของขวัญ ต้นคริสมาส เป็นต้น

บริบทมีความสำคัญและเกี่ยวพันกับนักออกแบบอย่างไร
ถ้านักออกแบบไม่ใช้บริบทในการออกเเบบ งานออกเเบบนั้นจะไม่มที่มาที่ไป งานจะมั่วๆ เป็นอะไรก็ได้ ไม่มีความหมาย

ยกตัวอย่างงานออกแบบที่เชื่อมโยงเกี่ยวพันกับ บริบท พร้อมทั้งเสนอภาพประกอบการอธิบาย
วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของชุดพรางก็คือการพรางตัวไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามสังเกตเห็นได้ง่าย จึงเป็นจุดกำเนิด
ของการพัฒนาเครื่องแบบชุดพราง เเละ นักออกเเบบเสื้อผ้า ก็นำลายพรางมาใช้ในการออกแบบเสื้อผ้า จึงกลายมาเป็นเเฟชั่น จนถึงทุกวันนี้





inspiration  แรงบันดาลใจ

1. คืออะไร
   - พลังชนิดหนึ่ง ที่ใช้ในการขับเคลื่อนการคิดและ การกระทำใด ๆ ที่พึงประสงค์ เพื่อให้สำเร็จได้ตามต้องการ
2. มาจากไหน
   - มาจากทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา ไม่ว่าจะเป็น คน สัตว์ หรือสิ่งของ เช่นอ่านหนังสือ ดูทีวี ฟังเพลง
3. มาจากสิ่งใด หรือจากใครบ้าง
   - การอ่านหนังสือ อาจไม่จำเป็นต้องอ่านมาก เเค่ดูผ่านๆก็ได้ ฟังเพลง หรือการเดินทางไปเที่ยวไปในที่ต่างๆก็อาจทำให้มีเเรงบันดาลใจอะไรใหม่เกิดขึ้นได้เสมอ
4. แรงบันดาลใจมีอิทธิพลต่อตัวเราอย่างไร
   - ทำให้เรามีกำลังใจที่จะทำสิ่งที่คิดไว้ให้สำเร็จถึงเเม้จะมีอุปสรรคมากก็ตาม
5. อะไรบ้างที่เป็นเเรงบันดาลใจในชีวิตเรา
   - การที่ได้คุยได้ถามหรือได้อ่านประวัติของคนอื่นที่เค้าประสบความสำเร็จ มันทำให้เราอยากจะทำได้บ้าง อย่างภาษิตที่ว่า “ชาติเสือต้องไว้ลาย ชาติชายต้องไว้ชื่อ”
6. ชิวิตที่ไม่มีแรงบันดาลใจจะเป็นเช่นไร
   - ไม่มีจุดมุ่งหมาย ไม่มีสิ่งที่อยากจะทำ คงน่าเบื่อมาก
7. ตัวเราหรือผลงานของเราจะสามารถเป็นเเรงบันดาลใจให้ใครในโลกนี้ได้ไหม
   - อาจจะเป็นเเรงบันดาลใจให้กับเด็กที่ชอบวาดรูป หรือน้องสาวผมเองที่เวลาผมนั่งวาดรูป น้องผมก็จะเอากระดาษ เอาสีไม้มาวาดรูปตาม ซึ่งบางทีผมก็เเอบดูน้องเหมือนกัน ว่า น้องวาดเเค่นี้ไม่ได้สวยอะไร เเต่เรากดูออกว่ามันเป็นพระอาทิตย์ กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า มือถือ ซึ่งบางที น้องเราก็เป็นเเรงบันดาลใจให้กับเราเหมือนกัน
8. การศึกษาค้นคว้ารวบรวมคิดวิเคราะห์ข้อมูลมีส่วนเกี่ยวข้องกับแรงบันดาลใจอย่างไร
   - ทำให้เรารู้เรื่อง เเละเข้าใจได้อย่างเเท้จริง ไม่ได้รู้ผิดๆถูกๆ เเละนำความรู้ที่ได้มาปรับใช้ได้เกิดประโยชน์
9. แรงบันดาลใจ ที่ขาดรายละเอียดต่างๆ ในข้อ 8 สามารถคาดเดา ได้ว่าจะส่งผลออกมาในรูปแบบใด
   - รู้ข้อมูลได้ไม่ดีพอ ไม่สามารถดึงส่วนสำคัญที่น่าสนใจออกมาใช้ประโยชน์ได้ เพราะไม่ได้ศึกษาอย่างละเอียด
10. ให้คุณลองคิดคำถามข้อสุดท้ายนี้ขึ้นเอง และตอบคำถามนั้นด้วย
   เวลาที่คุณคิดงานออก มักเป็นเวลาไหน หรือต้องทำอย่างไร
   - เวลาอาบน้ำ เพราะเวลาอาบน้ำจะทำให้ผมรู้สึกสบายเนื้อสบายตัวทำให้สมองปลอดโปร่ง ไม่ได้อยู่ในสภาวะเเวดล้อมที่เครียด หรือกดดัน เมื่อลองคิดงานอะไรซักอย่างก็จะคิดออก เเละคิดได้ไวขึ้น















contemporary benz





 


ทำไมต้องมีนักออกเเบบ?

  ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเรานั้นทุกอย่างเกิดจากการออกแบบวางแผนหรือได้รับการเเก้ไข ถ้าเกิดไม่มีนักออกเเบบ จะไม่มีสิ่งต่างๆที่ทำให้มนุษย์อยู่รอด เช่นที่อยู่อาศัย ระบบไฟฟ้า เรียกได้ว่าทุกๆ สิ่งต้องได้รับการออกเเบบ อย่างเช่นบ้านของเราถ้าไม่ได้รับการออกเเบบก็จะใช้อยู่อาศัยไม่ได้ ออกเเบบวางแผนโครงสร้างไม่ดีก็จะพัง หรือไม่มีการออกเเบบแผนที่ให้ดีอ่านเเล้วเข้าใจยาก ผู้ที่นำไปใช้ก็จะหลงทาง
  ในเมืองไทยนั้นอาชีพของนักออกเเบบยังถือว่าเป็นบุคคลที่ไม่ได้มีการให้ความสำคัญมากนักทุกๆ คนต่างคิดว่า
” จะมีไปทำไมเราก็ทำเองได้ “ คนส่วนมากเห็นว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็น ไม่ต้องให้ความสำคัญมากก็ได้ ใช้ได้เป็นพอ ซึ่งเมื่อคิดดูเเล้วก็เป็นเรื่องน่าเศร้ามากเลย คนส่วนใหญ่จะคิดว่าอาชีพ เเพทย์ พยาบาล วิศวะกร คุณครู สถาปนิก ก็พอเเล้ว พัฒนาประเทศได้ ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดนักออกเเบบนี่เเหละก็สำคัญไม่น้อยกว่าอาชีพใด
ยกตัวอย่างเช่น ป้ายบอกทาง ถ้าไม่มีนักออกเเบบคอยดูเรื่องทิศทาง การอ่าน สี วัสดุที่นำมาใช้ สถานที่ติดตั้ง ถ้าไม่ได้รับการดูเเลเอาใจใส่ป้ายบอกทางก็จะใช้บอกทางไม่ได้ อ่านไม่ออกคนดูเเล้วไม่เข้าใจอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
  อีกตัวอย่างที่น่าน้อยใจก็คือในกรณที่ใครสักคนอยากจะทำธุรกิจเล็กๆ อย่างเช่น เปิดร้านกาเเฟ เปิดร้านทำผม ร้านอาหารต่างๆ ก็ต้องให้นักออกแบบเป็นคนดูเเลในเรื่องชื่อร้าน ป้าย โลโก้ สี การตกเเต่งร้าน มันเป็นการที่ส่งผล
ในระยะยาวโดยที่ผู้ประกอบการคิดไม่ถึง เช่น การส่งเสริมการค้า ของจะได้ขายดี ดูน่าเชื่อถือ จดจำง่าย นักออกเเบบทำออกมาดี ใครไปใครมาเห็นก็จะมองว่าร้านนี้สวยจัง ดูดี น่าใช้ น่าเชื่อถือ คนก็จะชมที่ตัว
ผู้ประกอบการ ไม่ได้คิดไปถึงว่าใครมันออกเเบบ สวยจัง เเต่ถ้าเกิดออกเเบบไปเเล้วบางคนเกิดไม่ชอบขึ้นมาก็ด่าว่า ใครมันออกเเบบได้เเย่จริงๆ
  เรื่องที่เเย่ที่สุดก็คือ เรื่องของการประเมินคุณค่าของนักออกเเบบต่ำจนน่าเกลียด อย่างเช่นอยากได้ โลโก้องค์กร
สวยๆ อยากให้สินค้าตัวเองขายดี เเต่ดันเลือกนักออกเเบบที่คิดค่าจ้างถูก ไม่ยอมลงทุนจ้างนักออกเเบบที่มีคุณภาพ มีประสบการณ์สามารถที่จะทำงานออกเเบบนั้นออกมาได้ดี เรียกง่ายๆว่า “ ใครคิดค่าจ้างถูกกูเลือกคนนั้น “ มันจะเป็นอะไรที่บัดซบมากถ้าเกิดคิดกันเเบบนี้หรือเกิดค่านิยมเเบบนี้กับทุกๆคน อยากให้งานออกมาดีเเต่ไม่ยอม
ลงทุนกับการออกเเบบ


การ์ดปีใหม่ รุ่น รวยไม่รู้ลืม